TL;DR

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา(7/5/2017) /me ใช้เวลาทั้งวัน เดินป้วนเปี้ยนอยู่ภายในโรงหนัง Quartier CineArt โรง 7 เพื่อเตรียมตัวอยู่ในอีเว้น TEDxKasetsartU ในฐานะ Curator

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา(7/5/2017) /me ใช้เวลาทั้งวัน เดินป้วนเปี้ยนอยู่ภายในโรงหนัง Quartier CineArt โรง 7 เพื่อเตรียมตัวอยู่ในอีเว้น TEDxKasetsartU ในฐานะ Curator

/me เป็นคนหนึ่งที่ดู TED/TEDx มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย เพราะว่าอาจารย์หลายๆท่านแนะนำให้ฟัง /me ได้เห็นแนวคิดที่น่าสนใจมากมาย แถมยังเป็นการฝึกภาษาไปด้วยในตัว ทำให้ /me สนใจอีเว้นนี้เอามากๆ และได้โอกาสไปฟัง TEDxBangkok 2016 ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่เลอค่า เลย /me ถือโอกาสเขียนบล๊อคเพื่อแชร์ประสบการณ์ไว้ครั้งนึง

และครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์กับอีเว้น TEDx

แต่แทนที่จะเป็นแค่ผู้ฟังและผู้ส่งต่อไอเดีย ครั้งนี้ /me ได้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานในฐานะ Curator

โอกาสนี้เริ่มต้นขึ้นที่ facebook แน่นอนว่าเป็นช่วงหลังจากงาน TEDxBangkok 2016 และเป็นกระแสทำให้มหาลัยหลายๆแห่งเริ่มหยิบ TEDx มาจัดในรั้วมหาลัยกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น TEDxChulalongkornU, TEDxKMITL, TEDxThammasatU, …

ในตอนแรกดูเหมือนว่า ไม่น่าจะมี TEDxKasetsartU แต่ไปๆมาๆ ตอนนั้นอยู่ๆก็มีประกาศเพื่อรับสมัครทีมงานจัดกิจกรรม TEDxKasetsartU เลยชวนเพื่อนๆไปสมัคร

ปัญหาแรกที่ /me กลัวมากกว่าเขาจะไม่รับเข้าทีม คือ “อายุ” เนื่องจาก /me น่าจะเป็นคนเดียวที่จบไปแล้วตั้ง 2 ปี แต่ยังป่วน อยากทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ กลัวจะเข้ากับน้องๆทีมงานคนอื่นๆไม่ได้ แต่ใจที่อยากจัดมันเถียงชนะ ประกอบกับเพื่อนบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก ชิวๆดิ” เลยทำให้ /me ตัดสินใจสมัครและได้รับสัมภาษณ์ และปรากฎว่าเรื่องอายุดูจะไม่สำคัญไปเลย

ในตอนแรก /me สมัครเข้ามาทำในฐานะ Event Organizer แต่ท่ามกลางการสัมภาษณ์ น้องๆที่มาสัมภาษณ์บอกว่า “ผมคิดว่า พี่หนิน่าจะเป็น curator แทนมากกว่านะครับ” ก็เลยจับพลัดจับผลูมาเป็น Curator ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Curator ต้องทำอะไรบ้าง

แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีประชุมและพบปะสมาชิกภายในทีม จึงได้เจอกับสมาชิกคนที่เหลืออีก 5 คน คือ แอ๋ม, มุก, มา, ปริ้น และน้องจู

#teamCurator

แน่นอนว่าหลังจากนั้น /me ก็ค่อยๆศึกษาหน้าที่ของ Curator ถึงแม้ว่าไม่ใช่เรือธงหลักของงานครั้งนี้ แต่ก็เป็นหน้าที่สำคัญที่ทำให้งานนี้เดินต่อไปได้อย่างสง่า เพราะมันคือการรวบรวมและคัดสรรคอนเทนต์จากแหล่งต่างๆ มานำเสนอเพื่อสร้าง talk ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ฟังทุกคน หรือ พูดง่ายๆคือ “รวบรวม คัดสรร และเรียบเรียง”

มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้ทำงานกับ speakers ถือเป็นหน้าที่พิเศษที่นอกเหนือจาก core team ที่ได้ฟังเนื้อหาแต่ละเรื่องมาตั้งแต่ต้น ได้พบว่าทุกๆเรื่องราวมันมีที่มา มันมีมุมมองและแง่มุมหลากหลาย แต่ต้องเลือกหยิบเฉพาะบางแง่มุมที่มันจะสามารถสื่อสารให้ผู้ฟังได้ดีที่สุด

แต่กิจกรรมแรกก่อนที่เริ่มงาน กลับกลายไปเป็นกิจกรรมเปลี่ยนที่นอนนอกสถาณที่ เป็นค่ายเล็กๆ 2 วัน ที่ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไร ทุกอย่างดูฉุกละหุกไปหมด ทำให้แอบหวั่นๆเหมือนกันว่างานนี้จะไปรอดรึปล่าว? แต่อย่างน้อย การมาค่ายก็ทำให้ /me ได้รู้จักทีมอื่นๆมากขึ้น เพราะแน่นอนว่างานนี้ไม่ได้มีแค่ทีม curator แค่ทีมเดียว เราต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆคนตั้งแต่ ตากล้องไปจนถึงโปรแกรมเมอร์

หลังจากไปค่าย(แต่ในทีม curator ไปกันแค่ 2 ใน 6) ก็กลับมาเริ่มที่ภารกิจแรก เป็นภารกิจที่ทราบโดยไม่ทันตั้งตัว หลังจากประชุมครั้งที่ 2 กับ core team หลังจากที่ทีมเราดูจะขาดการติดต่อจากทีมอื่นๆไปนานแสนนาน

ภารกิจนั้น คือ กิจกรรม Call for speakers เป็นการจัดงานเพื่อคัดเลือกนิสิต(ประชุมรอบแรก) และบุคคลภายนอก(มารู้ทีหลัง) เข้ามาเป็น 1 ใน speaker

ซึ่งสำหรับ TEDxKasetsartU ออกจะแปลกกว่าที่อื่น เนื่องจากปกติแล้ว Call for speakers จะเป็นกิจกรรมสำหรับให้ทุกๆคนเสนอชื่อคนที่อยากจะให้พูด แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นการเสนอตัวเองเพื่อเข้าไปพูด และไม่น่าเชื่อว่า หลังจากประกาศไป(โดยที่เพจหลักปล่อยปะละเลย ไม่ค่อยตั้งใจ pr) ก็มีผู้สมัครเข้ามามากกว่าที่คิด และสุดท้ายก็เหลือรอดคนสุดท้าย คือ น้องปอนด์ ในหัวข้อ หยุดตีตรา เพื่อเดินต่อ

น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีรูปบรรยากาศวันนั้นมาอวดซักเท่าไร~

หลักจากนั้น ปัญหาสำคัญต่อมา คือ การติดต่อ speakers ความจริงแล้วงานในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของทีมอื่น แต่ดูเหมือนว่าทุกๆฝ่ายต่างมีเรื่องวุ่นวายในหน้าที่ของตัวเอง ท้ายที่สุดแล้วหน้าที่นี้ก็ตกมาสู่มือของทีม curator ถือเป็นโอกาสที่แต่ละคนในทีมต้องโทรไปที่นู้นที่นี้ เพื่อหาทางติดต่อ speaker แต่ละท่าน และ /me พบว่าวิธีติดต่อที่ดีที่สุด คือ การทักไปทางโลกโซเซียลต่างๆ โดยเฉพาะเพจที่คนๆนั้นดูแล แต่น่าเสียดายที่ cardidated speaker หลายท่านไม่ว่าง บางคนก็ไม่มั่นใจที่จะพูด ในที่สุดก็เหลือแค่ 10 คนสุดท้าย

แต่ แต่ แต่ ภารกิจของ curator ไม่ได้มีแค่นี้ เพราะว่า นี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น ภารกิจการ curate กำลังจะเริ่มหลังจากนี้

ภารกิจต่อมา คือ First Meeting ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทุกๆคนในทีมได้เจอ speakers ตัวจริง เสียจริง หลังจากรู้จักกันผ่านทางเฟสบุ๊ค, โทรศัพท์, อีเมลล์ และไลน์

แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาใหญ่กว่าก็เหมือนจะคุกรุ่นขึ้นมา เพราะว่าเป็นอีกครั้งที่ /me พึ่งทราบภาระหน้าที่ที่ต้องจัดการภารกิจนี้ เพราะสื่อสารกันไม่ชัดเจน งานไฟลนก้นก็มา~ ทุลุกทุเลไปตามประสางานไฟลุก แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ถือเป็นครั้งแรกที่ speaker 6 ท่านที่มาในวันนั้นได้เจอกับทีมงานทั้งหมด และทุกๆจะต้องทำงานด้วยกันไปอีก 2 เดือนกว่าๆจนถึงวันงาน

ตามกำหนดการแล้ว ภารกิจ curate นี้โดนกำหนดมาให้จัดพูดคุยเนื้อหากับ speaker ทั้งหมด ?? ครั้ง + 2 Run through น่าเสียดายที่ speaker แต่ละท่านมาได้บ้างไม่ได้บ้างเปลี่ยนกันไป และที่น่าเสียดายยิ่งกว่า คือ /me ไม่สามารถเข้าร่วมครบทุกรอบเพราะต้องไปทำภารกิจช่วยชาติ(??)อย่างการผ่อนผันทหาร เลยต้องปล่อยให้น้องๆทำงานแทน ตามแผนการที่ /me เขียนคร่าวๆไว้ให้(ฮือออออ)

แผนการที่วางไว้ คือ step 5 ขั้น ตั้งแต่ Introduce, Seed Topics, Improve Content, Prepare Materials และ Finalize Content

หลังจากกลับมาจากภารกิจช่วยชาติ รู้ตัวอีกทีก็พบว่า speakers แต่ละท่าน ทยอยกลั่นไปเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจกันแล้ว ความจริงต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษา และพี่แก่ที่ช่วยแนะนำ จนกลายมาเป็น Talks

เวลาแต่ละอาทิตย์ผ่านไปค่อนข้างเร็ว สิ่งที่กลัวอีกอย่าง คือ เรื่อง TEDx policy และ license เพราะว่าเรื่องนี้ค่อยๆกลายเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น ต้องมีการตรวจสไลด์ทุกหน้า ทุกตัวอักษร เพื่อเช็คความถูกต้องแต่ยังคงทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้

เวลาค่อยๆผ่านไป จนมาถึงวันเสาร์ก่อนวันจริง มีกำหนดการ Run through เพื่อซ้อมกำหนดการต่างๆ โดยเฉพาะทีม MC และ speakers

และท้ายที่สุดก็ถึงวันงาน ซึ่งทีมงานบางคน โดยเฉพาะทีม stage ต้องไปเตรียมเวทีและสถาณที่กันตลอดทั้งคืน แต่ยังโชคดีที่มีทีม production house ดูแลเรื่องแสงสีต่างๆ และสนับสนุนเรื่องต่างๆ

เมื่อทุกอย่างค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง เวลา 9.00 น. ก็เริ่มซ้อมครั้งสุดท้าย ก่อนขึ้นพูดจริงๆ เริ่มทดลองไมค์ ทดลองลูกเล่นต่างๆที่จะใช้เพื่อพูด ตั้งแต่หุ่นยนต์ของอาจารย์ต้นที่มาเกือบจะไม่ทันเวลางาน, ลูกเล่นการใช้ไฟของน้องปอร์น, การร้องเพลงของพี่แอร์ และการแสดงของครูเงาะ /me พบว่า speakers แต่ละท่านดูจะตื่นเต้นไปตามๆกัน แต่ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ หลังจากนั้น 15.50 น. ก็เป็นเวลาที่ทุกคนรอคอย และเริ่มต้นอีเว้น TEDxKasetsartU

ตลอดเวลา 3 ชม. ที่ต้องทำหน้าที่ส่ง speaker ขึ้นไปพูดทีละคนๆ เหมือนเข้าห้องเชือด speakers ทุกคนมีความอดทนสูงมาก เพราะมารอตั้งแต่ 9.00 จนกว่าจะถึงคิวของตัวเอง เรียกได้ว่ารอกันจนหมดไฟเลยทีเดียว /me แอบเห็นใจเหมือนกัน ครั้งหน้าอาจจะต้องหาแนวทางเพื่อแก้ไขจุดนี้อย่างจริงจัง(พี่คนนึงก็แจ้งเรื่องปัญหาทำนองนี้เหมือนกัน)

และถึงแม้ว่า /me จะอยู่แค่ข้างๆเวที แตร่ๆไปมาๆ ประสานงานนู้นนี้ แต่ไม่ได้เข้าฟังที่ speakers แต่ละท่านพูด ถึงอย่างนั้น ไม่รู้ว่ารูปแบบงานที่เกิดขึ้นเป็นแบบไหนจริงๆ แต่ /me ก็เชื่อว่าแต่ละคนทำได้อย่างเต็มที่ในแบบของตัวเอง และจะตั้งตารอดู talk ของแต่ละคนบน youtube ต่อไป (ตอนนั้นมี live แต่ก็ไม่ได้ดู)

และท้ายที่สุด ก็จบงานด้วย After party และดนตรีเพราะๆจาก KU Band

จบลงไปอีกหนึ่งงาน TEDxKasetsartU #teamCurator #TEDxKasetsartU Pakawat Nakwijit

ขอขอบคุณ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ speaker พี่นพ, น้องปอนด์, พี่นนท์, อาจารย์ต้น, พี่แอร์, พี่เบลล์, คุณรวิศ, พี่อิง, พี่ตั๊บ และครูเงาะ ที่สละเวลา ต้องเข้ามาในม.เกษตรเพื่อซ้อม และปรับเปลี่ยนเนื้อหา

ขอขอบคุณน้องๆในทีมที่ประคับประคองกันไปจนรอดมาได้จนจบงาน

ขอขอบคุณอาจารย์หลายๆท่านที่มาช่วย curate โดยเฉพาะพี่แก่

ขอขอบคุณทีมงานฝ่านต่างๆที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี(แต่อาจจะต้องแก้ไขในครั้งหน้า)

ขอขอบคุณความกล้าของน้องเจ ที่ตัดสินใจเป็น license holder จัดงานครั้งนี้

ความจริงแล้วมีอีกหลายเรื่องที่อยากเขียน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเล่าได้

ไว้เจอกันใหม่ คราวหน้าไม่รู้ว่าจะไปทำหน้าที่อะไร อาจจะเป็นแค่ผู้ฟัง แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสมาอยู่ในจุดนี้ จุดเล็กๆ จุดเดียวกับที่ Cris Alderson ผู้ก่อตั้ง TED เคยยืน